10 ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ล้างสำไส้ ขับถ่ายง่าย สุขภาพดี

นอกจากการดูแลตัวเอง กินอาหารที่มีประโยชน์และการออกกำลังกายแล้ว ความสะอาดของระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่ายที่ดีเป็นองค์ประกอบสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีที่หลายๆคนมองข้าม วันนี้เว็บไซต์ Topreview มีข้อมูลดีๆเกี่ยวกับเรื่องของการดีท็อกซ์ล้ำไส้ และ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ไฟเบอร์ ดีท็อกซ์” ที่ช่วยทำความสะอาดลำไส้ ชะล้างสารพิษและสิ่งตกค้างในระบบขับถ่ายและระบบทางเดินอาหารให้กลับมามีสุขภาพดีมาฝากคนรักสุขภาพให้อ่านกัน

โดยหัวข้อในบทความจะมี  ผลิตภัณฑ์ 10 ยี่ห้อไฟเบอร์ดีท็อกซ์ยอดนิยม 2. ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ควรกินตอนไหน 3. การทำงานของไฟเบอร์ดีท็อกซ์ 4. รีวิวไฟเบอร์ดีท็อกซ์ใน 7-11 5. ประเภทของการทำดีท็อกซ์ 6. ผลข้างเคียงในการทำดีท็อกซ์

10 ไฟเบอร์ ดีท็อกซ์ ที่ดีที่สุด ยี่ห้อไหนดี

จัดอันดับตามความนิยมใน Search Engine

1. ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ Labelle Mix Berry

ข้อดี : รสชาติอร่อย ช่วยให้ระบบการขับถ่ายดี ได้ประโยชน์จากเบอร์รี่ตระกูลต่างๆ ทั้งยังล้างของเสียสิ่งตกค้างในลำไส้ แก้ปัญหาขับถ่ายยากได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญทานแล้วพุงยุบเห็นผลทันใจ

เพิ่มเติม : Labelle.asia

2. Veena Detox กล่องสีม่วง

ข้อดี : เหมาะสำหรับสาวๆที่ชอบกินเจ สกัดจาก แอปเปิ้ลไฟเบอร์ นอกจากช่วยขับของเสียในลำไส้แล้ว ยังช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ดีท็อกมี อย. วางใจได้เลยจร้า

เพิ่มเติม : Veenaforu.com

3. ดีท็อกวิ้งไว้ (Pancea Fiber Detox) กล่องสีขาวดำ

ข้อดี : Detox ยอดนิยม แนะนำซื้อของแท้กับตัวแทนที่มีรหัสเท่านั้น เหมาะสำหรับสาวๆที่ ดื้อยา มีส่วนช่วยในการขับล้างสารพิษลำไส้ ให้สิ่งสกปรก สารพิษออกจากร่างกาย

เพิ่มเติม : WinkWhite Thailand

4. ดีท็อก แอมเวย์ กล่องสีขาวเขียว

ข้อดี : ไฟเบอร์ พาวเดอร์ ดีท็อกลำไส้ที่ดีที่สุด จาก Nutrilite ของแบรนด์แอมเวย์ ที่สาวๆ 30 + หลายๆคน รู้จัก ผลิตภัณฑ์ดีท็อกลำไส้ที่มีกากใยอาหาร ช่วยให้การทำงานระบบทางเดินอาหาร มีการขับถ่ายที่ดี ของแท้ซื้อได้กับสมาชิกที่มีรหัสเท่านั้น

เพิ่มเติม : amwayshopping.com

5. ดีท็อก อมาโด้กระปุกสีม่วง

ข้อดี : วิธีกินดีท็อกที่ดีที่สุด ของ Amado Fiber Strawberry Flavor ให้ทานหลังมื้อเย็นจะดีที่สุด ดีท็อกรสชาติอร่อย ดื่มง่าย ทาน 1 ซองเท่ากับผัก 350 กรัม ทานแล้วพุงยุบ ไม่อ้วน ล้างลำไส้ ล้างสารพิษ ขับถ่ายดี

เพิ่มเติม : amadoplus.com

6. ดีท็อกมินิมอล กล่องสีเขียว

ข้อดี : MINIMAL Detox Plus ดีท็อก ที่เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาท้องผูก ขับถ่ายไม่ออก ระบบการย่อยไม่ดี หากกำลังรู้สึกแน่นท้อง ตัวนี้ช่วยได้ดีจร้า ทางแบรนด์แนะนำว่าต้องทานคู่กับ มินิมอลกล่องสีม่วง จะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เพิ่มเติม : –

7. Finte Detox SOD กระป๋องสีชมพูส้ม

ข้อดี : ฟินเต้ Detox SOD ดีท็อกขับสารพิษในลำไส้ พร้อมช่วยบำรุงผิวพรรณ เหมาะกับสาวๆที่มีปัญหา ท้องผูก ขับถ่ายยาก มีกลิ่นตัวมากกว่าปกติ และยังมีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณกระจ่างใส บำรุงผิวพรรณด้วยสารสกัดจาก SOD

เพิ่มเติม : detox.fintethailand.com

8. Six Herbs Detox ซองสีเขียว

ข้อดี : ราคาถูก เป็นดีท็อกเม็ด พกพกง่าย ไม่ต้องชงดื่ม เหมาะกับคนที่ไม่ชอบชงดื่ม อยากได้เป็นเม็ด เวลาไปเที่ยวจะได้ทานได้อย่างต่อเนื่อง ดีท็อกสมุนไพรไทยมากกว่า 6 ชนิด ดื่มก่อนนอนครั้งละ 1 เม็ดดีที่สุด สำหรับคนธาตุอ่อนควรรับประทาน 1/2 เม็ด

เพิ่มเติม : ตัวแทน Six Herbs Detox

9. บอดี้เชพ อีซี่ ดีท็อกซ์ กล่องสีส้ม

ข้อดี : อาหารเสริมดีท็อกซ์ผงชงดื่ม ล้างสารพิษ สิ่งสกปรก ของเสีย ให้ออกจากร่างกาย [ลำไส้] เช่นตามผนังลำไส้ ให้ร่างกายทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เสริมสร้างสุขภาพดี

เพิ่มเติม : bodyshape.co.th

10. ชาดีท็อกซ์ Unicity กล่องสีขาวน้ำเงิน

ข้อดี : ดีท็อกลดพุง เหมาะกับสาวๆที่ชอบดื่มชาสมุนไพรเป็นประจำ สามารถดื่ม Nature Tea สกัดจากสมุนไพรตามธรรมชาติ 9 ชนิด มีส่วนในการช่วยล้างพิษในผนังลำไส้ ช่วยในการขับถ่าย ให้สุขภาพดีขึ้น

เพิ่มเติม : www.unicity.com

ไฟเบอร์ดีท็อกซ์กินตอนไหน
ของวันถึงจะได้ผลดีที่สุด

            จุดมุ่งหมายของการดีท๊อกซ์ ก็คือ การล้างสารพิษและขับของเสียที่ตกค้างในร่างกาย ระบบเหล่านี้ จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อ ร่างกายไม่ได้ใช้พลังงานในการทำกิจกรรมอื่น ๆ ฉะนั้น เวลาที่ดีที่สุดในการทำดีท็อกซ์ก็คือ ขณะที่ร่างกายกำลังพักผ่อนในเวลากลางคืน

ดังนั้น เวลาที่จะกินไฟเบอร์ ดีท็อกซ์ดีที่สุดก็คือ ก่อนนอนนั่นเอง เพราะเมื่อกินก่อนนอน ขณะนอนพักผ่อนไฟเบอร์ดีท็อกซ์ทำงานเต็มสตีม เพราะโดยหลักการแล้วต้องใช้เวลาถึง 8-12 ชั่วโมงในการดูดซึมสารอาหารไปใช้งาน และเหลือในส่วนกากอาหาร พอตื่นมาช่วงเช้า ร่างกายจะขับถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่

ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ล้างลำไส้ อย่างไร

ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ในเซเว่น

1. NUUI SLM

อาหารเสริมผสมสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น ชาเขียว กระชายดำ ถั่วขาว สามารถดักจับไขมันด้วยสารสกัดไบโอโพลีเมอร์จากพืช สามารถควบคุมน้ำหนัก และกระชับสัดส่วน ช่วยลดความอยากอาหาร เพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมัน รวมถึงปรับสมดุลการขับถ่ายให้ดีขึ้น รับประทานวันละ 1 แคปซูล ก่อนอาหารเช้า

2. The Secret Plus

อาหารเสริมสูตรเข้มข้น ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ อย่าง ส้มแขก , ไฮโดรไลซ์ ฟิช คอลลาเจน ที่มีฤทธิ์ช่วยดักจับไขมัน และสลายไขมันที่สะสมอยู่ตามชั้นผิวหนัง ลดการดูดซึมแป้ง น้ำตาล ทำให้อิ่มเร็วขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักลงยาก รับประทานวันละ 1-2 แคปซูล ก่อนอาหารกลางวัน

3. Body Shape Capsicum Plus

มีสารสกัดจากธรรมชาติ 100% อาทิดอกคำฝอย และ พริก ที่ช่วยสลายไขมันเก่าที่สะสมใต้ชั้นผิวหนัง และไขมันใหม่ รวมถึงไขมันเลว (LDL) ที่สะสมในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือด ทั้งยังช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันบริเวณช่องท้อง เพียงรับประทานวันละ 1 แคปซูลพร้อมอาหารมื้อหลัก

4. Donutt Diatally

อาหารเสริมที่มีสานสกัดจากธรรมชาติหลากหลายชนิด เช่น แอลคาร์นิทีน สาหร่ายสีน้ำตาล องุ่น โสม รวมถึงกระบองเพชร ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ช่วยปรับสมดุลให้กับระบบต่างๆ ในร่างกายให้มีประสิทธิภาพ รับประทานวันละ 2 แคปซูล ก่อนอาหารมื้อหลัก

5. Plus Activ

อาหารเสริมตัวนี้มีสารสกัดจาก เมล็ดถั่วขาว ถั่งเช่า และคลีนไบทาเทรต เป็นต้น ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญแล้ว ยังช่วยเพิ่มมีมวลกล้ามเนื้อ และทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากองุ่น ช่วยลดการเกิดริ้วรอยได้ รับประทาน 2 ครั้ง ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนอาหารกลางวัน-เย็น

ประเภทของการดีท็อกซ์

หลักการของการดีท็อกซ์ก็คือ กระบวนการกำจัดของเสียที่ตกค้างออกจากร่างกายให้สะอาดหมดจด เนื่องจากการกำจัดของเสียตามธรรมชาติทั่วไปมักจะมีของเสียตกค้างอยู่ ซึ่งปัจจุบันมีวิธีที่ใช้ในการดี  ท็อกซ์หลายวิธีด้วยกัน ดังนี้

1. ลดคาเฟอีน คนทำงานกับการดื่มกาแฟมักเป็นเรื่องปกติ เพื่อช่วยให้เกิดความตื่นตัวในการทำงาน หลายคนขยับการดื่มจาก 1 แก้ว เป็น 2-3 แก้วต่อวัน ทั้งที่รู้ว่าในกาแฟมีคาเฟอีน ที่รับเข้าสู่ร่างกายมากก็จะกลายเป็นพิษสะสมอยู่ การดีท็อกซ์ด้วยการลดปริมาณคาเฟอีนในกระแสเลือด ไม่จำเป็นต้องเลิก เพียงแต่ลดคาเฟอีน เช่น เปลี่ยนจากการดื่มกาแฟวันละ 2 แก้ว เป็นชาวันละแก้ว ก็จะเป็นการลดคาเฟอีนลงวันละประมาณ 100 มิลลิกรัม เป็นต้น ถ้าลดไปในรายวัน ร่างกายก็จะมีเวลาในการขับของเก่าที่ตกค้างอยู่ออกไป
2. กินอาหารที่มีไฟเบอร์มากขึ้น อาหารที่มีเส้นใย เสมือนกระตุ้นลำไส้ให้มีการออกกำลังกาย ในการย่อยอาหารมีการครูดเอาสิ่งที่เกาะติดบนผนังลำไส้ออกไปด้วย เหมือนได้ล้างทำความสะอาดลำไส้ การขับถ่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การกินอาหารที่มีไฟเบอร์มากเป็นประจำ เป็นการดีท็อกซ์แบบหนึ่ง เพราะอาหารเก่าไม่ตกค้าง ก็ไม่มีการดูดซึมพิษกลับเข้าสู่กระแสเลือด

3. นอนหลับพักผ่อนอย่างพอเพียง เวลานอนหลับร่างกายจะทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ รวมถึงขจัดสารพิษ ทำได้อย่างต่อเนื่องร่างกายภายในจะสะอาดขึ้น
4. งดดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีผลทำให้ร่างกายขาดน้ำกระทบต่อการไหลเวียนของเลือด และการทำงานของอวัยวะส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องกับการไหลเวียนของเลือด ตั้งแต่อวัยวะสำคัญๆ อย่างสมอง หัวใจ ไต รวมถึงระบบทางเดินอาหาร เมื่อทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพก็จะมีของเสียเกิดขึ้นในร่างกาย รวมถึงในแอลกอฮอล์ มีแคลอรี่สูงอีก เท่ากับเป็นการเพิ่มของที่ร่างกายไม่ต้องการ ดังนั้น ถ้างดแอลกอฮอล์ได้ น้ำในร่างกายมีปริมาณสมดุลจากการที่ดื่มเข้าไปอย่างพอเพียง ของเสียในร่างกายจะไม่เพิ่มขึ้น และเยียวยาตัวเองต่อไป
5. งดอาหารที่มีความหวาน หวานเป็นลม ขมเป็นยา การกินน้ำตาลหรือรับน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายโดยผสมอยู่กับอาหารอื่น น้ำตาลที่มากเกินไปจะมีส่วนที่เข้าสู่กระแสเลือด กระทบต่อการทำงานของหัวใจ น้ำตาลที่สูงอยู่ตลอดทำให้เลือดมีสภาพเป็นกรด ร่างกายขาดสมดุล ธรรมชาติจะพยายามปรับสมดุลด้วยการดึงแร่ธาตุไปใช้ ถ้าแร่ธาตุนั้นคือแคลเซียมก็จะส่งผลต่อกระดูกพรุนได้ การงดน้ำตาลจึงเป็นการดีท็อกซ์พิษในร่างกายเพื่อคืนสมดุลต่อไป
6. 6. ดีท็อกซ์ด้วยการดื่มน้ำให้มากขึ้น เพราะน้ำจะช่วยล้างสารพิษ ขับออกทางปัสสาวะได้
7. 7. ออกกำลังกายเป็นประจำ เป็นการดีท็อกซ์ กำจัดสารพิษผ่านทางเหงื่อ การออกกำลังกายช่วยขับเกลือแร่ส่วนเกินออกจากร่างกาย
8. ดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น เป็นอีกหนึ่งวิธีในการดีท็อกซ์ของเสีย ช่วยปรับค่า PH ในเลือด                     9. บริหารอารมณ์ ขจัดความเครียด เพราะความเครียดทำให้เกิดการเผาผลาญที่ผิดปกติ กระบวนการธรรมชาติเสียหายไป ถ้าปรับอารมณ์ จิตใจ ก็ได้ดีท็อกซ์อารมณ์ ที่ส่งผลกับการดีท็อกซ์ร่างกายไปด้วย ลดได้
9. อดอาหารล้างพิษ ดีท็อกซ์ด้วยการอดอาหารตลอดวันโดยการดื่มน้ำเพียงอย่างเดียว เป็นการ ดีท็อกซ์ร่างกายที่ได้รับความนิยมอีกวิธีหนึ่งที่ใช้หลักวิชาแพทย์ทางเลือก ด้วยแนวคิด พักร่างกายจากการรับสารพิษเพิ่ม และให้เวลาร่างกายกำจัดสารพิษที่มีอยู่
10. ดีท็อกซ์ด้วยการสวนทวารด้วยกาแฟ เป็นการกระตุ้นให้ร่างกายมีการขับถ่ายของเสียออกมาจดหมด ลดท็อกซินในร่างกาย ทำให้ลำไส้สะอาดขึ้น

ผลข้างเคียงในการทำดีท็อกซ์

ผลข้างเคียงของการดีท็อกซ์ จะเกิดขึ้นเมื่อคนที่ทำมีสุขภาพพื้นฐานที่มีปัญหาอยู่แล้ว หรือทำไม่ถูกวิธี จึงอาจมีผลข้างเคียงต่อไปนี้ คือ

1. ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและแร่ธาตุมากเกินไป วิกฤติสุดก็คือ ปรับสภาพไม่ทัน เกิดช็อกได้
2. การดีท็อกซ์ นอกจากจะขับสารพิษแล้ว ยังกำจัดแบคทีเรียตามธรรมชาติที่เคยอยู่ในลำไส้
3. ร่างกายขาดพลังงาน และขาดสารอาหารจากการอด อาจหน้ามืดเป็นลม
4. ระบบขับถ่ายอาจเคยชินกับการกระตุ้นด้วยวิธีดีท็อกซ์ ทำให้ธรรมชาติเสียไป ต้องกระตุ้นประจำ

ดังนั้น ถ้าจะทำดีท็อกซ์ จึงควรศึกษาให้ดี ให้เหมาะกับสุขภาพตัวเอง ทำให้ถูกวิธี

กลุ่มเสี่ยงในการทำดีท็อกซ์ ได้แก่ กลุ่มที่มีปัญหาเรื่องโรคประจำตัวที่อาจถูกกระทบจากดีท็อกซ์ เช่น มีปัญหาโรคลำไส้ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยถึงระดับเป็นมะเร็ง โรคความดันต่ำ ความดันสูง เพราะการดีท็อกซ์กระทบระบบขับถ่าย ระบบการไหลเวียนของเลือด

การดีท็อกซ์ กำจัดสารพิษในร่างกายเป็นเรื่องที่ดี หากทำถูกวิธี และให้เหมาะกับสุขภาพพื้นฐานของตัวเอง