คอลลาเจนช่วยเรื่องอะไร ? รวมทุกเรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนตัดสินใจทาน

คอลลาเจนช่วยเรื่องของสุขภาพหลายประการเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ในเรื่องของการทำให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง หรือประโยชน์ต่อการทำงานของข้อต่อ ทำให้ข้อต่อมีความยืดหยุ่นสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วและสะดวก นอกเหนือไปจากการรับคอลลาเจนจากการทานเนื้อสัตว์หรือธัญพืชผักที่มีประโยชน์แล้ว การเลือกรับประทานอาหารเสริมคอลลาเจนดีที่สุดตามรีวิว  ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ตอบโจทย์ของคนยุคใหม่เป็นอย่างยิ่ง โดยบทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ คอลลาเจนช่วยเรื่องอะไร,ประเภทของคอลลาเจน, ข้อมูลโภชนาการคอลลาเจนแบบผง,ประโยชน์ของคอลลาเจนผง,ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น จากการบริโภคคอลลาเจน,สามารถทานคอลลาเจนจากแหล่งธรรมชาติได้หรือไม่,ควรทานคอลลาเจนมากแค่ไหน? จะมีข้อมูลอะไรน่าสนใจบ้างลองไปดูกันเลย

คอลลาเจนช่วยเรื่องอะไร และคืออะไร?

คอลลาเจน (Collagen) คือโปรตีนที่ทำหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลข้อต่อให้มีความแข็งแรง และส่งเสริมความยืดหยุ่นของผิวหนังหรือทำให้เกิดความยืดหยุ่นต่อกระดูก กล้ามเนื้อ คอลลาเจนเป็นหนึ่งในประกอบ 3 ใน 4 ของผิวหนังและ 1 ใน 3 ของโปรตีนในร่างกายของเรา เมื่อคุณมีอายุมากขึ้น คอลลาเจนที่มีอยู่จะสลายไป และร่างกายจะผลิตได้ยากขึ้น ส่งผลทำให้หลาย ๆ คนหันไปบริโภคคอลลาเจนผง หรืออาหารเสริมคอลลาเจนประเภทอื่น ๆ เช่น แคปซูล กัมมี่ และเครื่องดื่มคอลลาเจน ผงคอลลาเจนและอาหารเสริมคอลลาเจนอื่น ๆ ทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นของผิวและบรรเทาอาการปวดข้อเข่าเสื่อม นอกจากนี้คอลลาเจนยังผลิตขึ้นตามธรรมชาติในร่างกาย โดยการรวมกรดอะมิโนซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของโปรตีนที่พบในอาหาร ซึ่งการผลิตคอลลาเจน ในร่างกายของคุณต้องการองค์ประกอบดังนี้

• Proline: พบในไข่ขาว ผลิตภัณฑ์นม กะหล่ำปลี เห็ด และหน่อไม้ฝรั่ง
• Glycine: พบในหนังหมู หนังไก่ เจลาติน และอาหารที่มีโปรตีนอื่น ๆ มากมาย
• วิตามินซี: พบในผลไม้รสเปรี้ยวและพริกหยวก
• สังกะสี: พบในเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อหมู หอย ถั่วชิกพี ถั่วเลนทิล ถั่ว นม ชีส ถั่วและเมล็ดพืชต่าง ๆ
• ทองแดง: พบในเครื่องในสัตว์ ผงโกโก้ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดงา และถั่วเลนทิล

ประเภทของคอลลาเจน

หลังจากที่ทำการศึกษา คอลลาเจน ช่วยเรื่องอะไร ไปแล้ว คราวนี้มาศึกษาประเภทของคอลลาเจนกันต่อดีกว่า เพราะร่างกายของคุณประกอบด้วยประเภทของคอลลาเจนหลายชนิด นักวิทยาศาสตร์ได้ระบุว่ามีสายพันธุ์ทั้งหมด 29 ชนิด ซึ่งรวมถึง 5 ประเภทหลักเหล่านี้

• Type I ให้ความแข็งแรงแก่ผิวหนัง กระดูก เอ็น และเส้นเอ็น
• Type II เป็นส่วนประกอบของกระดูกอ่อนที่ยืดหยุ่น ซึ่งทำหน้าที่ช่วยพยุงข้อต่อของคุณ
• Type III พบในอวัยวะภายใน หลอดเลือด และกล้ามเนื้อ
• Type IV พบในบางชั้นของผิวหนังของคุณ
• Type V พบในกระจกตาของคุณ เช่นเดียวกับผิวหนังและผิวหนังที่เป็นที่อยู่ของเส้นผมในบางชั้น

อาหารเสริมคอลลาเจนส่วนใหญ่มีส่วนผสมของประเภท I, II และ III ซึ่งเป็นส่วนประกอบของคอลลาเจนส่วนใหญ่ที่พบในร่างกายของเรา ประกอบด้วยคอลลาเจนในรูปแบบที่ย่อยได้ที่เรียกว่าคอลลาเจนเปปไทด์ หรือคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการไฮโดรไลซ์อาหารเสริมเหล่านี้ทำมาจากเนื้อเยื่อของวัว หมู ไก่ หรือปลา นอกจากนี้คุณยังสามารถหาซื้อผงคอลลาเจนมังสวิรัติที่ทำจากแบคทีเรียและยีสต์ได้อีกด้วย แต่นักวิทยาศาสตร์ไม่การันตีว่ามีประโยชน์เช่นเดียวกับคอลลาเจนจากสัตว์หรือไม่

คอลลาเจนอาหารเสริมในรูปแบบแคปซูล เครื่องดื่ม และกัมมี่มีส่วนประกอบที่ออกฤทธิ์เช่นเดียวกับคอลลาเจนผง แต่ปริมาณจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน ผู้บริโภคบางคนพบว่าการเติมผงคอลลาเจนลงในเครื่องดื่มหรืออาหารนั้นง่ายกว่าการกลืนแคปซูล แต่สำหรับบางคนที่ใช้ชีวิตแบบที่มีการเดินทางเสมอ ๆ หรือไม่ชอบรสและกลิ่นในรูปแบบของคอลลาเจนน้ำหรือผง ก็มักจะเลือกคอลลาเจนแคปซูลมากกว่า เพราะว่าพกพาสะดวกและสามารถกลืนได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่สัมผัสลิ้น

รู้จักคอลลาเจนไดเปปไทด์ หนึ่งส่วนผสมของอาหารเสริมยอดนิยม

คอลลาเจนไดเปปไทด์เป็นส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีประโยชน์ต่อการสังเคราะห์ของคอลลาเจนในร่างกาย โดยคอลลาเจนไดเปปไทด์ช่วยบำรุงสุขภาพผิวหนัง ข้อต่อ และกระดูก ลดรอยเหี่ยวย่นและริ้วรอย ปรับปรุงความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิวหนัง อย่างไรก็ตาม การศึกษาพบว่าคอลลาเจนไดเปปไทด์สามารถดูดซึมได้ดีในร่างกายของคน และอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าการทานอาหารเสริมคอลลาเจนในรูปแบบอื่น ๆ เช่น ผงโปรตีนคอลลาเจนหรือเปปไทด์คอลลาเจนที่ไฮโดรไลซ์ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อให้เข้าใจถึงประโยชน์ที่เป็นไปได้ของคอลลาเจนไดเปปไทด์ และกลไกการทำงานอย่างเต็มที่

ข้อมูลโภชนาการคอลลาเจนแบบผง 

ผงคอลลาเจนเปปไทด์ 14 กรัมประกอบด้วย

• แคลอรี่: 50
• โปรตีน: 12 กรัม
• ไขมัน: 0 กรัม
• คาร์โบไฮเดรต: 0 กรัม
• ไฟเบอร์: 0 กรัม
• น้ำตาล: 0 กรัม

คอลลาเจนเปปไทด์ในปริมาณที่เท่ากันยังมีแคลเซียม 29 มิลลิกรัม โซเดียม 44.9 มิลลิกรัม และโพแทสเซียม 0.98 มิลลิกรัม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นข้อมูลโภชนาการก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปตามผลิตภัณฑ์นั้น ๆ คำแนะนำเพิ่มเติมคือขอให้คุณผู้อ่านอ่านข้อมูลบริเวณข้างกล่องผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมก่อนรับประทาน เพื่อทำความเข้าใจกับข้อมูลที่ถูกต้องเสียก่อน

ประโยชน์ของคอลลาเจนผง

เนื่องจากคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในร่างกายของเรา คอลลาเจนไม่เพียงแต่มีประโยชน์ แต่ยังส่งผลต่อการรักษาสุขภาพที่ดีอีกด้วย โดยเฉพาะการให้ประโยชน์ในเรื่องของการรักษาความชุ่มชื้นของผิว และบรรเทาอาการปวดข้อเข่าเสื่อม นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ที่เราอยากแนะนำเพิ่ม

• กระดูกแข็งแรงขึ้น เมื่อคนเราอายุมากขึ้นกระดูกของเราจะมีความหนาแน่นน้อยลงและเปราะมากขึ้น แตกหักง่ายขึ้นและใช้เวลาในการรักษานานขึ้น งานวิจัยบางชิ้นพบว่าการรับประทานคอลลาเจนผงทุกวัน สามารถชทำให้กระดูกของคุณหนาแน่นขึ้น ชะลอกระบวนการชราที่ทำให้กระดูกเปราะบาง และทำให้ร่างกายสร้างกระดูกใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ช่วยปรับความยืดหยุ่นของผิวและทำให้เกิดความชุ่มชื้น อาหารเสริมคอลลาเจนช่วยปรับปรุงความชุ่มชื้นของผิว และให้ความยืดหยุ่นของผิวสำหรับผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังอาจช่วยลดริ้วรอยได้อีกด้วย
• ผมหนาขึ้น ผู้หญิงหลายคนพบปัญหาผมร่วงหรือผมบางเมื่ออายุมากขึ้น จากการศึกษาหนึ่ง ที่ทำการเก็บข้อมูลจากกลุ่มสตรีที่มีผมบางพบว่าปริมาณเส้นผม การปกคลุมหนังศีรษะ และความหนาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนทุกวัน
• เล็บมีสุขภาพดีขึ้น หลาย ๆ คนมีปัญหาเล็บบาง เล็บหักง่าย เล็บฉีก เล็บงอกช้า จากการศึกษาหนึ่งในกลุ่มผู้หญิง แสดงให้เห็นว่าเล็บงอกเร็วขึ้นและเล็บหักหรือบิ่นน้อยลง หลังจากกินเสริมคอลลาเจนทุกวันเพียง 4 สัปดาห์
• ลดอาการปวดข้อเข่าเสื่อม สำหรับผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม การทานอาหารเสริมคอลลาเจนอาจทำหน้าที่บรรเทาอาการปวดเล็กน้อย และปรับปรุงการทำงานของข้อต่อ ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 3-5 เดือนถึงจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน
• มวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น การศึกษาขนาดเล็กชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้ชายที่รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนเปปไทด์ในระหว่างโปรแกรมการฝึกความแข็งแรง 12 สัปดาห์พบว่ามวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงเพิ่มขึ้นมากกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทาน
• สุขภาพหัวใจดีขึ้น คอลลาเจนช่วยรักษารูปร่างของหลอดเลือดแดงและหลอดเลือด เมื่อคุณขาดคอลลาเจน หลอดเลือดแดงของคุณอาจอ่อนแอลง หลอดเลือดที่เปราะบางจะเพิ่มความเสี่ยงต่อหลอดเลือด ซึ่งอาจนำไปสู่อาการหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมองได้ จากการศึกษาเล็ก ๆ พบว่าการกินคอลลาเจน ช่วยทำให้หลอดเลือดแดงแข็งแรงขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงของหลอดเลือดเปราะ

หลังจากที่คุณทานอาหารเสริมคอลลาเจนแล้ว ระบบย่อยอาหารของคุณจะย่อยคอลลาเจนเป็นกรดอะมิโน ร่างกายของคุณจะรวมกรดอะมิโนเหล่านี้เข้าด้วยกันเพื่อสร้างโปรตีนใหม่ขึ้นมา

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น จากการบริโภคคอลลาเจน

ผลข้างเคียงของการทานคอลลาเจนแบบผง แคปซูล ของเหลว หรือกัมมี่นั้นพบได้น้อยมาก หากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร คุณอาจต้องการงดการทานอาหารเสริมคอลลาเจนไปก่อน เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัยเพียงพอที่จะสรุปเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่คอลลาเจนจะปนเปื้อนด้วยยาฆ่าแมลง แบคทีเรีย หรือสารอื่น ๆ เนื่องจากผงคอลลาเจนและอาหารเสริมคอลลาเจนประเภทอื่น ๆ มักทำจากสัตว์ จึงอาจมีความเสี่ยงในส่วนนี้ สิ่งสำคัญคือคุณควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจนที่เชื่อถือได้มีความปลอดภัย ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา มีความน่าเชื่อถือในระดับสูง

นอกเหนือไปจากการทานอาหารเสริมคอลลาเจนแล้ว สามารถทานคอลลาเจนจากแหล่งธรรมชาติได้หรือไม่

นอกเหนือไปจากการรับคุณประโยชน์จากการทานอาหารเสริมคอลลาเจนแล้ว คุณยังสามารถรับคอลลาเจนจากแหล่งอาหารธรรมชาติ แหล่งอาหารที่พบได้ทั่วไป แหล่งอาหารที่ไม่ได้แปรรูปได้อีกด้วย

ในการผลิตคอลลาเจน ร่างกายของคุณจะใส่กรดอะมิโนไกลซีนและโพรลีนร่วมกับกรดอะมิโนอื่น ๆ รวมทั้งวิตามินซี สังกะสี และทองแดง เพื่อสร้างเป็นคอลลาเจนขึ้นมา ดังนั้นจากกระบวนการนี้นี่เอง คุณจึงช่วยทำให้ร่างกายของคุณผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้นโดยการรับประทานอาหารที่มีไกลซีนและโพรลีนสูง เช่น ไก่ เนื้อวัว ปลา ผลิตภัณฑ์นม ไข่ และถั่ว สำหรับวิตามินซี สังกะสี และทองแดง หรือสารอาหารที่มาจากผักเช่น ผลไม้รสเปรี้ยว มะเขือเทศ ผักใบเขียว หอย ถั่ว และเมล็ดธัญพืช

และในกรณีที่คุณเลือกทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจน อย่าลืมตรวจสอบส่วนผสมซะก่อน อย่าลืมอ่านรายการส่วนผสมอย่างละเอียดเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่คุณกำลังสนใจนั้น ไม่มีสารเติมแต่ง หรือสารกันบูดที่ไม่จำเป็นในการในการใส่เข้ามา ตามหลักการแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ดีควรประกอบด้วยคอลลาเจนเท่านั้น และอาจมีสารแต่งกลิ่นหรือสารให้ความหวานจากธรรมชาติก็ได้

ควรทานคอลลาเจนมากแค่ไหน?

จากการวิจัยพบว่าผู้ใหญ่สามารถบริโภคคอลลาเจนได้อย่างปลอดภัย ในปริมาณ 2.5 – 15 กรัมต่อวัน แนะนำให้อ่านฉลากบนอาหารเสริมของคุณเพื่อดูว่าอาหารเสริมของคุณมีปริมาณคอลลาเจนเท่าใด หลาย ๆ คนรับประทานคอลลาเจนผงประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะต่อวัน คุณสามารถนำผงคอลลาเจนมาผสมลงในสมูทตี้ เชค ขนมอบ ซุป หรือแม้แต่กาแฟหรือชาของคุณได้ทั้งนั้น ทำให้ นำไปประยุกต์กับรูปแบบการทาน ที่มีความชอบของแต่ละคนได้อย่างหลากหลาย

และปฏิบัติตามคำแนะนำในการทาน อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำในการทานที่แนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ การรับประทานคอลลาเจนมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาทางเดินอาหารได้ และยังไม่ชัดเจนว่าการรับปริมาณที่สูงจนเกินไปจะให้ประโยชน์เพิ่มเติมหรือไม่

โดยรวมแล้วการทานคอลลาเจนสามารถเป็นส่วนเสริมที่มีประโยชน์ สำหรับการทานอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับหลาย ๆ คนได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ปรึกษาแพทย์ และทำตามคำแนะนำในการทาน เพื่อทำให้แน่ใจว่าคุณกำลังใช้อาหารเสริมอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

อ้างอิงจาก:

• Health Benefits of Collagen. https://www.webmd.com/diet/collagen-health-benefits